“ไม่มีใครต้องการให้เกิดภัยธรรมชาตินั้น เราต้องใช้ภัยธรรมชาตินั้นเป็นครูที่จะสอนเรา”
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย
๔ ธันวาคม ๒๕๒๒
“เราจะทำให้ประเทศไทยกลับมีความอุดมสมบูรณ์ มีความชุ่มชื้นได้ ขออย่าไปรังแกป่าเท่านั้นเอง”
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย
๔ ธันวาคม ๒๕๓๗
ปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก ด้วยวิธีการ 3 วิธี คือ
1. ถ้าเลือกได้ที่เหมาะสมแล้ว ก็ทิ้งป่านั้นไว้ตรงนั้น ไม่ต้องไปทำอะไรเลย ป่าจะเจริญเติบโต มาเป็นป่าสมบูรณ์
โดยไม่ต้องไปปลูกเลยสักต้นเดียว
2.ไม่ไปรังแกป่าหรือตอแยต้นไม้เพียงแต่คุ้มครองให้ขึ้นเองได้เท่านั้น
3.ในสภาพป่าเต็งรัง ป่าเสื่อมโทรมไม่ต้องทำอะไรเพราะตอไม้ก็จะแตกกิ่งออกมา อีกถึงแม้ต้นไม้
สวยแต่ก็เป็นไม้ใหญ่ได้
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เกี่ยวกับการฟื้นฟูสภาพป่าด้วยวัฏจักรธรรมชาติ
“พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า”
พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
๒๐ ธันวาคม ๒๕๒๕
“สอนให้รู้ด้วยว่า ไม้ไผ่นั้นสร้างได้เองอย่างสวยงาม ทนทานพอประมาณ ไม่คุ้มกันถ้าจะหันหลังเข้าคลอง
ฟันไม้ต้นใหญ่ๆ มาสร้างบ้าน มีบ้านสวยแต่หาแหล่งน้ำไม่ได้ ก็จบสิ้นกัน”
พระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
๒๖ ธันวาคม ๒๕๒๕
“คนที่ไร้ที่อยู่ที่ทำกินก็ต้องรู้สึกว่า พวกที่ต้องการรักษาป่าคือศัตรูขัดขวางความสุข ของเขา ฉะนั้น ป่าก็เป็นที่ต้องห้าม
ขัดประโยชน์ของ พวกที่ไร้ที่ดิน ทางเลือกทางเดียว คือทำให้ป่าที่อยู่ เป็นทางหากินของพวกเขา
โดยมีคนของทางราชการช่วยจัดและดูแลผลประโยชน์ ของพวกไร้ที่อยู่
และผลที่เลิศของส่วนรวมคือ “น้ำ” ซึ่งจำเป็นต่อชีวิตที่สุด”
พระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
๒๖ ธันวาคม ๒๕๒๕
“สอนให้รู้ด้วยว่า ไม้ไผ่นั้นสร้างได้เองอย่างสวยงาม ทนทานพอประมาณ
ไม่คุ้มกันถ้าจะหันหลังเข้าคลอง ฟันไม้ต้นใหญ่ๆ มาสร้างบ้าน มีบ้านสวยแต่หาแหล่งน้ำไม่ได้ ก็จบสิ้นกัน”
พระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
๒๖ ธันวาคม ๒๕๒๕
“ป่าไม้ช่วยซึมซับน้ำฝนไว้ใต้ดิน เรียกว่า น้ำใต้ดินค่อยๆ ระบายลงมาเป็นธารน้ำ เป็นลำคลอง เป็นแม่น้ำ
ให้เราได้ใช้กันตลอดมา เราจึงควรถนอมรักษาป่าไว้ให้คงอยู่เป็นต้นน้ำลำธาร เพื่อว่าลูกหลานเราจะได้ไม่ลำบาก”
พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
๑๑ สิงหาคม ๒๕๓๔
“ป่าไม้ของประเทศไทย เรียกว่าป่าฝน ซึ่งชาวต่างประเทศเขาบอกว่า แหล่งน้ำของไทยนี้มาจากป่าฝน”
พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
๑๑ สิงหาคม ๒๕๓๔
“ป่าไม้ช่วยซึมซับน้ำฝนไว้ใต้ดิน เรียกว่า น้ำใต้ดิน ค่อยๆ ระบายลงมาเป็นธารน้ำ เป็นลำคลอง เป็นแม่น้ำ
ให้เราได้ใช้กันตลอดมา เราจึงควรถนอมรักษาป่าไว้ให้คงอยู่เป็นต้นน้ำลำธาร เพื่อว่าลูกหลานเราจะได้ไม่ลำบาก”
พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
๑๑ สิงหาคม ๒๕๓๔
“ป่าไม้ของประเทศไทย เรียกว่าป่าฝน ซึ่งชาวต่างประเทศเขาบอกว่า แหล่งน้ำของไทยนี้มาจากป่าฝน”
พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
๑๑ สิงหาคม ๒๕๓๔
“ที่พูดกันว่า ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาลนั้น ความจริงเป็นฝีมือมนุษย์นั่นเอง เพราะฉะนั้น
ถ้าเราให้สภาพธรรมชาติกลับคืนมาเหมือนเดิม มีแม่น้ำลำธาร มีน้ำจืด
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดต่อชีวิตมนุษย์ และการพัฒนาประเทศชาติ
พวกเราต้องเข้าใจและช่วยกันรักษาป่า เพื่อที่เราจะได้มีอนาคตและความหวังร่วมกัน”
พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
“ธรรมชาติแวดล้อมของเรา ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดิน ป่าไม้ แม่น้ำ ทะเล และอากาศมิได้เป็นเพียงสิ่งสวยๆงามๆเท่านั้น
หากแต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของเราและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของเราไว้ให้ดีนี้
ก็เท่ากับเป็นการปกปักรักษาอนาคตไว้ให้ลูกหลานของเราด้วย”
พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ |