ประวัติความเป็นมา
สืบเนื่องจากเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2541 ได้เกิดไฟไหม้ป่าขึ้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่า ทุ่งบางนกออก หมู่ที่ 5 บ้านปากจ่า ตำบลควนโส อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา ซึ่งพื้นที่เกิดเหตุโดยทั่วไปเป็นสภาพป่าพรุเสม็ดไฟป่าที่เกิดขึ้นจึงมีความรุนแรง ยากต่อการดับและควบคุมไฟป่า และ กระแสลมได้พัดเอาควันไฟ คราบเขม่า ลอยเข้าปกคลุมบริเวณพื้นที่อำเภอสิงหนคร และอำเภอเมือง จังหวัดสงขลา สร้างความเดือนร้อนให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว อีกทั้งสื่อมวลชนหลายแขนงได้เสนอข่าวไฟไหม้ป่า สำนักงานป่าไม้เขตสงขลาจึงได้นำกำลัง เจ้าหน้าที่เข้าดับไฟ และขอกำลังสนับสนุนจากสถานีควบคุมไฟป่าทะเลน้อยจังหวัดพัทลุงซึ่งเป็นสถานีควบคุมไฟป่าที่อยู่ใกล้เคียงที่สุดมาช่วยดับไฟเนื่องจากจังหวัดสงขลาขณะนั้นยังไม่มีสถานีควบคุมไฟป่าและเหตุการณ์ไฟป่าในครั้งนั้นต้องใช้เวลาในการควบคุมไฟนานหลายวัน ไฟป่าที่เกิดได้สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศน์และพื้นที่ป่าหลายร้อยไร่ จากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าทุ่งบางนกออก บ้านปากจ่า ตำบลควนโส อำเภอควนเนียงจังหวัดสงขลา สร้างความเสียหายต่อสภาพป่าไม้ สัตว์ป่า ระบบนิเวศน์ และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง กรมป่าไม้ในขณะนั้น ได้ตระหนักถึงความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วนต้องจัดตั้งสถานีควบคุมไฟป่า ขึ้นในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อรองรับกับสถานการณ์ไฟป่าอันอาจจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า
ดังนั้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 กรมป่าไม้ได้มีคำสั่งที่ 33/2542 ลงวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2542 เรื่อง ให้ข้าราชการและลูกจ้างประจำไปปฏิบัติงานราชการสถานีควบคุมไฟป่าสงขลา ขึ้น
ต่อมาในปีงบประมาณ 2546 ได้มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการมีผลให้ สถานีควบคุมไฟป่าสงขลา โอนมาสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยมีภารกิจหลักดูแลควบคุมไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
ที่ตั้ง
สถานีควบคุมไฟป่าสงขลา
1. ที่ตั้งสถานีควบคุมไฟป่าสงขลา ขณะนี้มีสำนักงานชั่วคราวตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ของเขต
ห้ามล่าสัตว์ป่าเขาปะช้าง-แหลมขาม หมู่ที่ 1 ตำบลสะกอม อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
2. อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับ จังหวัดพัทลุงและนครศรีธรรมราช
ทิศใต้ ติดต่อกับ จังหวัดยะลาและประเทศมาเลเซีย
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ จังหวัดปัตตานีและอ่าวไทย
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ จังหวัดสตูลและประเทศมาเลเซีย
แผนที่แสดงที่ตั้งที่ทำการชั่วคราวสถานีควบคุมไฟป่าสงขลา
|